วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พ่อพันธุ์ไก่แดง



ไก่นกแดง





ประวัติความเป็นมาไก่นกแดง

          ตามประวัติ ไก่นกแดงของพระยาศรีไสยณรงค์ ชนมา 6 ครั้ง ไม่เคยแพ้ใคร ทำให้เจ้าของสายพันธุ์ (ขุนฤทธิ์ปูพ่าย) สมัยเป็นทหารในสมเด็จพระมหินทราธิราชได้กินเหล้า จนเกิดอาการมึนเมา แล้วท้าสู้กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยไม่รู้จักกันมาก่อน ต่อมาภายหลังได้มาเป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

พ่อพันธุ์ไก่ชี

ไก่ชี








ประวัติความเป็นมาไก่ขาวไก่ชี
          เป็นไก่ขนสีขาวปลอดทั้งตัว เข้าใจว่าเกิดจากการกลายพันธุ์จากไก่พื้นเมืองไทยเลาหางขาว เมื่อนำพ่อพันธุ์ขนสีขาวผสมกับแม่พันธุ์ขนสีขาว ลูกที่ได้ขนสีขาวสวยงาม เป็นไก่พื้นเมืองไทยที่เรียกขานกันว่า ไก่ชีไม่ปรากฏว่าเป็นไก่ที่สำคัญของบุคคลใดในประวัติศาสตร์

พ่อพันธุ์ไก่เหลืองหางขาว






ไก่เหลืองหางขาว




ประวัติความเป็นมาไก่เหลืองหางขาว

          ไก่เหลืองหางขาว คือ ไก่พื้นเมืองของไทยสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากไก่บ้านพันธุ์กะตังอู หรือไก่อู มีมาพร้อมคนไทยโบราณ พบคนนำไก่มาชนกันในสมัยสุโขทัย เมื่อชาวบ้านว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา ใครใคร่ทำอะไรก็ได้ ก็นำไก่มาเล่นชนไก่ จากชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา แพร่กระจายกันสู่หมู่ขุนนาง เจ้าขุน เจ้านาย และต่อมาได้พัฒนาเป็นกีฬาพระราชา เช่น ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าเสือ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นต้น
          ไก่เหลืองหางขาวที่นิยมเป็นพันธุ์แท้ดั้งเดิม ต้องเป็นไก่บ้านกร่าง บ้านหัวเทจังหวัดพิษณุโลกเพราะไก่พิษณุโลกเป็นไก่ในประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมัยทรงพำนักอยู่ในประเทศพม่าได้ทรงนำไก่เหลืองหางขาวจากพิษณุโลกซึ่งเป็นเมืองพระราชบิดาของพระองค์ไปชนกับไก่ของพระมหาอุปราชาไก่เหลืองหางขาว เป็นไก่ฉลาดปราดเปรียว อึด ทน เป็นไก่เชิงแปดกระบวนท่า ไก่เหลืองหางขาวจึงชนะไก่พม่ามาตลอด ครั้งหนึ่งไก่ไทยชนกับไก่พม่าหน้าพระที่นั่ง ไก่เหลืองหางขาวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตีไก่เหลืองโยดอกหมากหางดำของพระมหาอุปราชาคอหักล้มลงและแพ้ ทำให้พระมหาอุปราชทรงอับอาย กล่าวแก้ว่า ไก่เชลยตัวนี้เก่งจริง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทรงกล่าวตอบโต้ด้วยความภาคภูมิว่า

           "ไก่เชลยตัวนี้อย่าว่าแต่จะตีอย่างกีฬาในวังเหมือนวันนี้เลย ตีพนันเอาบ้านเมืองกันก็ยังได้"

ไก่พ่อพันธุ์ประดู่หางดำ



ไก่ประดู่หางดำ



ประวัติความเป็นมาไก่ประดู่หางดำ

            ไก่พันธุ์ประดู่หางดำ เป็นไก่พื้นเมืองของไทยมาแต่โบราณ พัฒนามาจากไก่บ้านพันธุ์ กะตังอู หรือ ไก่อู มีมาพร้อมไก่เหลืองหางขาวและคนไทยโบราณ พบคนนำไก่มาชนกันในสมัยสุโขทัย จากชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา แพร่หลายมาในหมู่ขุนนาง เจ้าขุนมูลนาย และต่อมาได้พัฒนามาเป็นกีฬาพระราชา เช่น สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ พระเจ้าเสือ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นต้น
            ไก่ประดู่หางดำ ที่นิยมเป็นพันธุ์ดั้งเดิม ต้องเป็นไก่สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ฉะเชิงเทรา มีนบุรี หนองจอก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไก่ประดู่หางดำชั้นดี
            ไก่ประดู่หางดำโด่งดังครั้งสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ได้ทรงนำไก่ประดู่หางดำ จากสุพรรณบุรีมาชนกับไก่ของข้าราชบริพาร ทรงชนะตลอด ทำให้ไก่ประดู่หางดำโด่งดังไม่น้อยไปกว่าเหลืองหางขาว บางตำราบอกว่า ไก่ประดู่หางดำ เป็นต้นตระกูลสายพันธุ์ไก่อื่นๆ อีกหลายสายพันธุ์ในประเทศไทยไก่ประดู่หางดำ เป็นไก่มีลักษณะงดงามมาก ชั้นเชิงการชนเป็นไก่เชิงบน 4 กระบวนท่า ขี่ กอด ทับ เท้าบ่า หรือบางทีมีมัดปีกด้วย



พ่อพันธุ์ไก่พื้นเมือง


พ่อพันธุ์ไก่พื้นเมือง








ไก่ 3 สามสายพันธุ์




                กรมปศุสัตว์มีนโยบายด้านการวิจัย และพัฒนาพันธุ์สัตว์ปีกและเทคโนโลยีการจัดการต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและการเลี้ยงดูของเกษตรกรรายย่อยในท้องถิ่น และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งในปัจจุบันความนิยมของผู้บริโภคเน้นไปที่ไก่พื้นเมืองพันธุ์แท้ เพราะรสชาติดีเนื้อแน่น ไขมันต่ำและเนื้อมีกลิ่นหอม ซึ่งตรงกันข้ามกับไก่เนื้อโตเร็วที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาด ดั้งนั้น กลุ่มงานสัตว์ปีก กองบำรุงพันธุ์สัตว์ จึงได้ทำการวิจัยผสมพันธุ์ไก่สามสายพันธุ์ขึ้นมา เพื่อทำเป็นสายแม่พันธุ์ ที่มีคุณสมบัติให้ลูกดก เจริญเติบโตเร็ว เนื้อหน้าอกเต็ม และเมื่อนำไปผสมกับพันธุ์พื้นเมืองแล้วจะให้ลูกผสมสี่สายพันธุ์ที่มีลักษณะไม่แตกต่างกับไก่พื้นเมือง คุณภาพเนื้อทัดเทียม หรือดีกว่าไก่พื้นเมือง การวิจัยพันธุ์ได้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี 2537 ที่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา และวิจัยต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาสัตว์ปีกแห่งชาติ อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี การวิจัยพันธุ์มีวัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่ง คือ ให้เกษตรกรขยายพันธุ์เองได้ ไม่กลายพันธุ์ และไก่สามสายพันธุ์ยังเป็นแม่พันธุ์พื้นฐานสำหรับผสมเป็นไก่เนื้อพื้นเมืองเติบโตเร็ว ห้าสายพันธุ์ได้อีกด้วย คือ สามารถที่จะปรับเปลี่ยนสลับพ่อพันธุ์ให้ได้ลูกโตช้าโตเร็วได้ตามความต้องการ แม้แต่ไก่พันธุ์เนื้อโตเร็วก็ใช้แม่พื้นฐานสามสายพันธุ์หรือจะใช้พันธุ์สามสาย ผลิตเป็นไก่พื้นเมืองโดยตรงก็ได้ คุณภาพเนื้อแตกต่างกันเล็กน้อย แต่เจริญเติบโตเร็วกว่านำไปผสมกับไก่พื้นเมือง ซึ่งแผนการผสมพันธุ์ดังนี้ 





ไก่ลูกผสมพื้นเมือง

       


ไก่ลูกผสมพื้นเมือง [Corssbreeds Chicken]

           ไก่พื้นเมืองไทยมีลักษณะดีเด่นคือสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในชนบทได้ดี หากินเก่ง เลี้ยงลูกเก่ง และมีเนื้อคุณภาพที่ดี กล่าวคือ มีความนุ่ม แน่น ไม่เหนียว ไม่ยุ่ยเละ และไขมันต่ำกว่าเนื้อไก่กระทงสายพันธุ์ต่างประเทศ (ทรงยศ และคณะ, 2551)  ด้วยเหตุนี้ไก่พื้นเมืองไทยจึงได้รับความนิยมนำไปเลี้ยงเพื่อบริโภคในครัวเรือนและเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมในชนบท ปัจจุบันมีเกษตรกรบางรายต้องการเลี้ยงไก่พื้นเมืองไทยเป็นอาชีพ แต่เนื่องจากไก่พื้นเมืองไทยยังมีข้อด้อยในเรื่องการเจริญเติบโตต่ำและจำนวนไข่เฉลี่ยต่อปีต่ำ(30-50 ฟอง) (ศรัญญา และคณะ, 2556) ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะปรับปรุงพันธุ์ไก่พื้นเมืองให้มีศักยภาพในการเจริญเติบโตดีกว่านี้ และยังคงให้เนื้อที่มี คุณภาพดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ดังเช่น การผลิตไก่ลูกผสมพื้นเมือง ซึ่งเป็นไก่ที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างพ่อพันธุ์ไก่พื้นเมืองกับแม่พันธุ์ไก่กึ่งเนื้อกึ่งไข่ เพื่อให้ได้คุณภาพเนื้อใกล้เคียงกับไก่พื้นเมืองมากที่สุด และสามารถผลิตลูกไก่ได้จำนวนมากกว่าการผลิตไก่พื้นเมืองพันธุ์แท้ อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ที่มีการเลี้ยงไก่พื้นเมืองลูกผสม พบว่าเกษตรกรขายไม่ได้ราคาเท่ากับไก่พื้นเมืองแท้เพราะยังมีปัญหาด้านขนสีแดงซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของตลาดและอกไก่มีลักษณะแหลม (ทรงยศ และคณะ, 2551) แต่ไก่พื้นเมืองลูกผสมก็ยังสามารถขายได้ราคาดีกว่าไก่เนื้อ